กาแฟมีฤทธิ์กระตุ้นประสาท โดยคาเฟอีนที่อยู่ในกาแฟจะเข้าไปขัดขวางการทำงานของสารแอดิโนซีน ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่ทำให้รู้สึกง่วงนอน จึงทำให้รู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่าขึ้น

กลับบางคนที่ดื่มกาแฟแล้วกลับรู้สึกง่วงนอน อาการยิ่งดื่มกาแฟ ยิ่งง่วง ไม่ได้ผิดปกติเสมอไป อาจเป็นเพราะสาเหตุดังต่อไปนี้

1.ดื่มกาแฟตอนง่วงแล้ว 

คาเฟอีนจะทำงานได้ดีที่สุดเมื่อดื่มก่อนเริ่มรู้สึกง่วงนอน หากดื่มกาแฟหลังจากที่ง่วงนอนไปแล้ว คาเฟอีนอาจไม่สามารถต้านฤทธิ์ของแอดิโนซีนได้เต็มที่ ทำให้รู้สึกง่วงนอนอยู่ดี

2.ดื่มกาแฟมากเกินไป 

การดื่มกาแฟมากเกินไปจะทำให้ร่างกายปรับตัวและทนทานต่อฤทธิ์ของคาเฟอีน ทำให้ปริมาณคาเฟอีนเท่าเดิมไม่สามารถกระตุ้นประสาทได้ดีเท่าเดิม ส่งผลให้รู้สึกง่วงนอนมากขึ้น

3.ร่างกายขาดน้ำ 

คาเฟอีนมีฤทธิ์เป็นยาขับปัสสาวะเล็กน้อย ทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำมากขึ้น หากร่างกายขาดน้ำ จะทำให้รู้สึกเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย และง่วงนอนได้

4.แพ้คาเฟอีน 

บางคนอาจมีอาการแพ้คาเฟอีน ซึ่งอาจแสดงอาการต่างๆ เช่น ใจสั่น กระสับกระส่าย นอนไม่หลับ หรือง่วงนอน เป็นต้น

5.มีโรคประจำตัวบางชนิด 

ยกตัวอย่างโรคที่ทำให้ดื่ใกาปฟแล้วมีอาการง่วงนอน คือ โรคไทรอยด์ต่ำ โรคซึมเศร้า หรือโรคลมหลับ เป็นต้น โรคเหล่านี้อาจทำให้รู้สึกง่วงนอนได้ 

หากพบว่าดื่มกาแฟแล้วรู้สึกง่วงนอน ควรลองปรับพฤติกรรมการดื่มกาแฟ เช่น ดื่มกาแฟก่อนง่วงนอน ดื่มกาแฟในปริมาณที่พอเหมาะ ดื่มน้ำให้เพียงพอ กรณีอาการยิ่งดื่มกาแฟ ยิ่งง่วง เกิดขึ้นบ่อยๆ หรือทำให้รบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุและรับการรักษาที่เหมาะสม 

นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่อาจทำให้รู้สึกง่วงนอนได้ เช่น นอนไม่พอ เครียด วิตกกังวล พักผ่อนไม่เพียงพอ หรือขาดสารอาหาร เป็นต้น หากรู้สึกว่าง่วงนอนบ่อย ควรหาสาเหตุและแก้ไขอย่างเหมาะสม