หน้าวีเชฟ (V-shaped face) คือลักษณะใบหน้าที่เห็นสันบริเวณแก้มและคางชัดเจน เป็นรูปหน้าที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก การที่สันหน้าคมชัดนอกจากจะช่วยให้ถ่ายรูปภาพออกมาดูดีแล้ว ยังช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับใครหลายๆ คนได้อีกด้วย เทคนิคทางการแพทย์ด้านความงามที่ได้รับความนิยมมากนั้น ก็คือการ ฉีดโบท็อกปรับกรอบหน้านั่นเอง
โบท็อก กระชับคอ ปรับหน้าคม
เทคนิคนี้เป็นในการฉีดเพื่อยกกระชับใบหน้า แนวกราม และลำคอให้ยกตึงขึ้นได้ โดยไม่ต้องทำการผ่าตัดดึงหน้า โดยโบท็อกจะถูกฉีดเข้าสู่กล้ามเนื้อในบริเวณคอ ทำให้ยกยกกระชับใบหน้า แนวกราม และลำคอให้ยกตึงขึ้นได้นั้นเอง
ผลข้างเคียงของการฉีดโบท็อก
การฉีดโบท็อกเพื่อปรับใบหน้าสวย หน้าเรียวเล็ก มักจะเป็นกระบวนการที่ปลอดภัยและมีผลข้างเคียงน้อย แต่บางครั้งอาจเกิดผลข้างเคียงบางอย่างได้ ดังนี้
1. อาการบวมและแดงบริเวณที่ฉีด: บางครั้งอาจมีอาการบวมและแดงบริเวณที่ฉีดโบท็อก อาการนี้จะสามารถหายไปเองภายในไม่กี่วันหรือไม่กี่สัปดาห์
2. หน้าผากตกและตึง : หน้าผากอาจมีอาการตึงๆ เวลาขยับหรือเลิกคิ้ว
3. หน้าแข็ง ไร้อารมณ์ : หน้าตึงมากเกินไปในช่วงแรก เลยไม่สามารถบังคับให้ยิ้ม หรือหัวเราได้ตามอารมณ์ช่วงนั้นๆ เลยทำให้หน้าดูไร้อารมณ์ แต่อาการเหล่านี้จะหายไป
4. หางคิ้วยก : ให้ความรู้สึกเหมือนว่าหน้าเลิกลั่กตลอดเวลา
5. ผิวเห่อแดง : แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ โดยเฉพาะถ้ามีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น เจ็บที่ใบหน้า ปวดศีรษะ วิงเวียนศีรษะ อาเจียน เป็นต้น ควรอยู่ในการดูแลของแพทย์
ราคาฉีดโบท็อก และวิธีดูแลหลังฉีด
ราคาส่วนใหญ๋ จะขึ้นอยู่กับยี่ห้อโบท็อกที่เลือกใช้ ถึงแม้ปริมาณที่ฉีดเข้าไปจะเท่ากัน แต่ราคาก็จะแตกต่างออกไปนั่นเอง ยกตัวอย่างราคา Botox ที่ Mvitaclinic
1. XEOMIN incobotulinumtoxinA : 100 ยูนิต 14,999.-
2. Allergan : 100 ยูนิต 14,999.-
3. HUGEL : 100 ยูนิต 6,999.-
ซึ่งราคาที่บอกมาจะแตกต่างกันออกไปตามแต่ละคลินิกที่คนไข้เข้ารับการรักษา
วิธีดูแลตัวเองหลังฉีด โบท็อก
หลังการฉีดโบท็อกเพื่อกระชับหน้าคมและปรับรูปหน้าจะถือว่าสิ้นสุดการดูแลจากหมอแล้ว เรื่องการพักฟื้นเราต้องดูแลเอง เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและเพื่อความปลอดภัยหลังฉีดโบท็อกควรดูแลตัวเอง ดังนี้
1. หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือการกดบริเวณที่ฉีด หลังการฉีดโบท็อกแควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือการกดบริเวณที่ฉีดเป็นเวลา 24-48 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการกระทบกับบริเวณที่ฉีดและเพื่อให้ยาได้ทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ
2. หลังการฉีดโบท็อกควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมที่เหงื่อออก หรือเสี่ยงที่จะโดนบริเวณจุดที่ฉีด เพื่อป้องกันผลกระทบกับโบท็อกในระยะเริ่มต้น
3. หลังการฉีดโบท็อกควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดตรงหรืออากาศร้อนจัด เนื่องจากอาจทำให้โบท็อกสลายได้เร็วขึ้นและอาจส่งผลต่อผลลัพธ์ของการรักษา
4. รับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์และดื่มน้ำเพียงพอ การรับประทานอาหารที่มีสารอาหารที่เหมาะสม และดื่มน้ำให้เพียงพอจะช่วยในกระบวนการฟื้นตัวและรักษาผิวหน้าให้แข็งแรง
5. เลือกใช้ครีมดูแลหน้าให้เหมาะกับช่วงหลังฉีดโบท็อก ดูแลผิวหน้าตามปกติได้ แต่งดกด หรือจับบริเวณที่ฉีด แนะนำให้ล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น ใช้โฟมอ่อนๆ โดยไม่ต้องใช้แรงมาก เพื่อป้องกันไม่ให้สารโบท็อกกระจายไปยังบริเวณอื่นของใบหน้า
โดยทั่วไปแล้วผลข้างเคียงหลังการฉีดโบท็อกจะเป็นแบบชั่วคราวและหายไปเอง แต่กรณีที่รู้สึกได้ถึงความผิดปกติ ควรติดต่อแพทย์ทันทีเพื่อปรึกษาและรับคำแนะนำเพิ่มเติม ส่วนใครที่กำลังมองหาคลินิกดีๆ หรือกำลังวางแผนจะฉีดโบท็อก อย่าลืมที่จะปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อน เพื่อขอคำแนะนำและแผนการรักษาเบื้องต้นก่อน
อ่านเพิ่มเติม
ปรับรูปหน้าวีเชฟ (V-Shape) ต้องทำอะไรบ้าง? ถึงช่วยให้หน้าเรียว